
มาต่อกันเลยครับกับ 22 อันดับการ์ตูนฮิตที่นักอ่านอยากให้พิมพ์ใหม่มากที่สุด ในมุมมองของนักอ่านชาวไทย ตอนที่ 2 ครับ
(ติดตามตอนที่ 1 ได้ที่นี่จ้า ^^)
อันดับที่ 12 Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว! (อาจารย์อิซึมิ มัตสึโมโตะ)
เรื่องนี้เป็นอะไรที่ไม่ต้องสงสัยนะครับ ทำ poll กี่ครั้งหัวข้ออะไรที่เกี่ยวกับการ์ตูนจะต้องมีเรื่องนี้ติดอันดับอยู่ด้วยเสมอ เรื่องราวความรักสามเศร้านั้นขายได้เสมอไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปขนาดไหน โดยเฉพาะนางเอกอย่างอายูคาวะ มาโดกะ นั้นขึ้นแท่นนางเอกตลอดกาลทุกสถาบัน…จริงๆ นะ
อ.มัตสึโมโตะ มีผลงานหลายเรื่องอยู่ครับ แต่ที่เด่นๆ และได้ตีพิมพ์ในบ้านเราก็มีอยู่ 2 เรื่อง คือ Orange Road กับ Sesame Street โดย Orange Road นั้น VBK เป็นเจ้าแรกที่พิมพ์ออกมา 18 เล่มจบ ขายดีมากจนต้องทำเวอร์ชั่น 400 หน้า 25 บาทออกมาอีก (ตอนนั้นผมมีทั้ง 2 เวอร์ชั่นเลย) ผ่านมายุคลิขสิทธิ์ก็จัดพิมพ์ออกมาอีกราคาเล่มละ 25 บาท ผมก็ซื้ออีก ห่อปกสวยหรู มีหน้าเปิด มีสารบัญ มีหน้าปิด ตรงตามต้นฉบับญี่ปุ่นเป๊ะ อ่านแล้วน้ำตาจะไหล วัยรุ่นยุค 3G สมัยนี้จะเข้าใจความรู้สึกนั้นมั๊ยหนอ…เอาเป็นว่า ขึ้นหิ้งบูชาไปแล้วเรียบร้อยครับผม



ความน่าสนใจถ้าได้พิมพ์ใหม่ : กลางๆ ครับผม นักอ่านน่าจะเก็บสะสมกันไว้หลายชุดแล้ว หลังๆ ไพเรทพิมพ์ไว้ดีซะด้วยสิ แต่ถ้าจะมีลิขสิทธิ์ออกมาใหม่ก็อยากจะได้แบบที่เคยนำเสนอเรื่องของ Kickstarter ไปแล้วก่อนหน้านี้ เรื่องการระดมทุนเพื่อพิมพ์ใหม่พร้อมของแจกมากมาย เอาแบบนั้นเลยนะ ใครก็ได้ช่วยที ^^
อันดับที่ 11 Osamu Tezuka Bunko Complete Works (อาจารย์เท็ตสึกะ โอซามุ)
ในการสำรวจครั้งนี้มีคนจำนวนหนึ่งทำการโหวตแบบเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย นั่นคือโหวตให้กับ “ทุกเรื่องของ อ.โอซามุ” ซึ่งก็ไม่น่าแปลกในครับ ถ้าใครเคยอ่านงานของ อ.โอซามุ มาแล้วหลายๆ เรื่อง แล้วลองถามว่าชอบเรื่องไหนมากที่สุด? รับรองว่าคิดหนัก! เลือกไม่ถูกแน่นอน (รวมทั้งผมด้วย ^^) ดังนั้นเราจึงรวมทุกผลงานของ อ.โอซามุ เป็นผลงานเดียวกันแล้วเลือกลงคะแนนให้กับ Osamu Tezuka Bunko Complete Works แทนครับ
Osamu Tezuka Bunko Complete Works คือหนังสือรวบรวมทุกผลงานของ อ.โอซามุ มีทั้งสิ้น 400 เล่ม โดยจะไล่เรียงไปตั้งแต่ผลงานเรื่องแรกไปจนถึงเรื่องสุดท้ายของอาจารย์ ซึ่งถ้าเราอ่านต่อเนื่องแบบไม่หยุดพักจะใช้เวลาอ่านถึง 145 ชม. 38 นาที ด้วยจำนวนหน้าทั้งหมดกว่า 150,000 หน้า…ถ้าได้มีไว้ติดบ้านสักชุดละก็ชาตินี้ตายตาหลับแน่นอน





ความน่าสนใจถ้าได้พิมพ์ใหม่ : มากที่สุด จะเห็นได้ว่ายังมีผลงานของ อ.โอซามุ อีกมากมายที่เรายังเข้าไม่ถึง แม้ว่า VBK ได้ลิขสิทธิ์บางส่วนมาแปลไทยให้เราได้อ่านกันแล้วแต่ก็ยังเป็นส่วนน้อยครับ ถ้าเทียบกับงานทั้งหมดนะ จะมีใครทำให้ฝันเป้นจริงบ้างไม๊นะ
และ Top 10 ของ 22 อันดับการ์ตูนฮิตที่นักอ่านอยากให้พิมพ์ใหม่มากที่สุด ในสายตานักอ่านชาวไทยมีดังต่อไปนี้จ้า
อันดับที่ 10 7 สิงห์ประจันบาน (อาจารย์มิกิยะ โมชิซูกิ)
บ้านเมืองมีกฏหมาย แต่เมื่อกฏหมายเอาผิดคนร้ายไม่ได้ จึงต้องใช้ความรุนแรงสยบความรุนแรง นี่คือเรื่องราวของ Wild 7 หรือ 7 สิงห์ประจัญบาน ตำรวจลับหน่วยพิเศษ 7 คน เนื้อเรื่องจะดิบๆ เถื่อนๆ ตามสไตล์ยุค 70 มีฉากเซอร์วิสบ้างนิดหน่อยแต่เรื่องความรุนแรงจัดเต็ม เรื่องนี้เคยถูกตีพิมพ์ในบ้านเราแบบถูกลิขสิทธิ์ด้วยโดย สนพ. ยอดธิดา เมื่อนานมาแล้วและเท่าที่ทราบยังไม่เคยถูกพิมพ์ใหม่อีกเลย มีทั้งหมดจำนวน 10 เล่มจบภาค แต่ต้นฉบับญี่ปุ่นนั้นมีถึง 48 เล่ม
Wild 7 ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ อนิเมชั่น และถูกนำมาเขียนใหม่โดยนักเขียนรุ่นใหม่ด้วยนะครับ ด้วยเรื่องราวที่สนุก การปราบเหล่าร้ายแบบถึงลูกถึงคนทำให้เป็นอีกเรื่องที่นักอ่านรุ่นใหญ่ชอบกันมาก และพล็อตเรื่องแนวศาลเตี้ยปราบทรชนแนวๆ นี้ยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับการ์ตูนรุ่นหลังอีกหลายเรื่อง
ความน่าสนใจถ้าได้พิมพ์ใหม่ : มาก แนวคิดเรื่องความยุติธรรมในอุดมคติใช้ได้เสมอ อีกอย่างเรื่องนี้หาอ่านยากมากเลย พิมพ์ใหม่เถอะ เอาให้จบด้วยนะ ^^
อันดับที่ 9 อาสึมิ สวยประหาร (อาจารย์โคยาม่า ยู)
การ์ตูนอีกเรื่องที่คนตามอ่านกันมากและก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่รู้ว่าจบยังไงกันแน่
อ.โคยาม่าเป็นอีกท่านหนึ่งที่มีผลงานดังแบบเงียบๆ นักอ่านในบ้านเราตามงานแกอยู่ก็มีมากพอสมควร ผลงานสร้างชื่อของแกคือ Sprinter ส่วนเรื่อง อาสึมิ เรื่องนี้เคยพิมพ์ในบ้านเราโดย สนพ. Leon Book แล้วก็ถูกพิมพ์ซ้ำโดย สนพ. อื่นๆ อีกหลายรอบ แต่ทุกรอบก็มีแต่คำถามว่ามันจบหรือยังนะ ตรงนี้ไม่ชัวร์จริงๆ ครับ หลายกระแสมาก

อาสึมิเป็นเรื่องของนินจาสาวในยุคประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เนื้อเรื่องค่อนข้างจะ 18+ ทั้งความรุนแรงและเรื่องเซ็กส์ แต่ลายเส้นของ อ.โคยาม่า วาดโป๊ก็ดูไม่โป๊หรอกครับ มันมีที่มาที่ไปตามเนื้อเรื่อง ถ้าอ่านแล้วจะเข้าใจว่าในยุคสงครามในหัวของคนเรามันมีไม่กี่เรื่องหรอกครับ การเล่าเรื่องของอาสึมิก็ไม่ธรรมดาครับ เหมือนเรากำลังดูดราม่าซีรีส์ดีๆ เรื่องนึงเลย
ความน่าสนใจถ้าได้พิมพ์ใหม่ : ถ้าได้ลิขสิทธิ์มาและมั่นใจว่าไม่ลอยแพก็น่าสนใจมากครับ จะได้รู้เนื้อเรื่องแบบจบจริงๆ ว่าเป็นยังไงกันแน่ การเล่าเรื่องของ อ.โคยาม่า สนุกอยู่แล้ว
อันดับที่ 8 ดันเป้เจ้าหนูดอจบอล (อาจารย์เท็ตซึฮิโร่ โคชิตะ)
ความเร่าร้อนของกีฬาปาบอลอันกันที่แสนดุเดือดในวันวาน…ความรู้สึกนั้นยังครุกรุ่นอยู่จนถึงตอนี้
ดัมเป้ เจ้าหนูดอจบอล ที่ได้อฺทธิพลมาจากเกมฟามิคอม คุนิโอะดอจบอล มาเต็มๆ ในยุคนั้นเกมนี้ดังมากและยังเป็นเกมที่ทำให้รู้จัก ดอจบอล กีฬาปาบอลอัดกันอีกด้วย ซึ่งเมื่อก่อนถ้าว่ากันตรงๆ ไอ้การปาบอลใส่กันเราก็เล่นกันสนุกๆ มั่วๆ ขำๆ กันอยู่แล้วแต่ไม่ยักกะรู้ว่ามันมีชื่อเรียกเป็นกีฬาจริงๆ ด้วยหรือนี่ และเมื่อกระแสมันมา สนพ.มิตรไมตรีก็จัดให้สิครับ
ดัมเป้ เจ้าหนูดอจบอล ดูลายเส้นก็รู้เลยว่าเจาะกลุ่มเด็กๆ เป็นหลัก แต่ความเร้าร้อนของเจ้าหนูดัมเป้นี่สิ ไม่เด็กนะครับผม สู้กันสนุกมากแข่งกันอย่างกับจะฆ่ากันตาย ปาบอลกันอย่างเว่อร์ไม่รู้ว่าเอาเวลาที่ไหนไปฝึกปาลูก สุดท้ายก็เน้นมิตรภาพระหว่างเพื่อนฝูงตามสูตร
สังเกตมุมขวาล่าง จบภาค 4 ซึ่งไม่แน่ใจว่ามีกี่ภาคกันแน่ หลังจากนั้นหลายปี สนพ. บงกช นำมาพิมพ์ใหม่จำนวน 18 เล่มจบ ซึ่งก็ได้รับความนิยมสูงเพราะมีอนิเมะและกิจกรรมส่งเสริมการขายเยอะแยะมากมาย
ความน่าสนใจถ้าได้พิมพ์ใหม่ : น่าสนใจครับ ผมมองว่าเอาการ์ตูนกีฬาสนุกๆ มาเจาะกลุ่มเด็กๆ ให้มีกิจกรรมที่ออกนอกจอมือถือบ้างน่าจะดีนะ
อันดับที่ 7 ยอดนักโทษสาว (อาจารย์ชินจิ วาดะ)
เก่าครับ เก่ามาก แล้วก็ดังมากด้วยโดยเฉพาะซีรีส์ในบ้านเราดังกว่าการ์ตูนซะอีก ที่สำคัญตามหาแบบครบชุดยากสุดๆ เพื่อนนักอ่านบางคนบอกว่าเคยมีแต่โดนน้ำท่วมไปแล้ว เป็นไปได้ว่าอาจจะไม่มีใครเป็นเจ้าของแบบครบชุดเลยก็เป็นได้..(เวอร์ไปมั้ง ฮ่าๆ)
Sukeban Deka มาจากคำว่า Sukeban หมายถึงนักเรียนนักเลงที่เป็นผู้หญิง และ Deka หมายถึง นักสืบ พอมาไทยใช้ชื่อว่า ยอดนักโทษสาว เนื่องจากเนื้อเรื่องช่วงแรกๆ จะมีการแหกคุกด้วย ผู้พิมพ์เจ้าแรกในเมืองไทยก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ VBK เจ้าเก่านี่เอง ตอนนั้นออกมาเล่มละ 10 บาท ไม่แน่ใจว่ามีทั้งหมดกี่เล่ม แต่ของญี่ปุ่นมีทั้งหมด 22 เล่มจบ


ยอดนักโทษสาว เกิดจากความผิดพลาดในการสื่อสารระหว่าง อ.วาดะ กับกอง บ.ก. ของนิตยสาร Hana to Yume ครับ คืออาจารย์แกตั้งใจจะเขียนเรื่องราวในโรงเรียนมัธยมแนวดราม่า แต่ทางกอง บ.ก. เข้าใจไปว่าจะเขียนแนวนักสืบ อ.วาดะ เลยทำการฟิวชั่นออกมาเป็น ยอดนักโทษสาว ซะเลย โดยให้ตัวละครหลักเป็นผู้หญิงในโรงเรียนมัธยมแล้วก็เป็นนักสืบลับของกรมตำรวจด้วย เธอคนนั้นก็คือ อาซามิยะ ซากิ มีอาวุธประจำตัวเป็น โยโย่ ที่มีตรา ซากุระไดมง หรือตรากรมตำรวจญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกมาก ครีเอทสุดๆ ของเล่นก็ขายดีตามไปด้วย วัยรุ่นเล่นโยโย่กันทั้งเมือง

ลายเส้นของ อ.วาดะ จะออกไปทางการ์ตูนผู้หญิงครับ แต่ฉากแอ็คชั่นมันส์ขนาดการ์ตูนสายบู๊บางเรื่องสมัยนี้ยังสู้ไม่ได้ ซึ่งของนักเขียนรุ่นก่อนจะคล้ายๆ กันหมดคือ ไม่เคยปล่อยให้เป็นหน้าขาวหรือถมดำแบบเต็มๆ หน้าแบบการ์ตูนสมัยนี้ (บางเรื่องนะ) นั่นหมายความว่าทุกช่องจะเต็มไปด้วยรายละเอียด นักเขียนต้องใส่ใจมากๆ และแน่นอนว่าไม่ได้ใช้คอมทำเหมือนสมัยนี้ พลังแห่งการสร้างสรรสูงมากจริงๆ
ความโด่งดังของเรื่องนี้ถือว่าประสบความสำเร็จสูงมาก ถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมะและทีวีซีรีส์ด้วย โดยเฉพาะซีรีส์มีถึง 3 ซีซั่น ช่อง 5 นำมาฉายใช้ชื่อว่า สิงห์สาวนักสืบ ก็เรทติ้งดีสุดๆ คือดูกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ก็มันสนุกนี่นา เป็นการ์ตูนในความทรงจำอีกเรื่องของนักอ่านหลายๆ คนเลยครับ

ความน่าสนใจถ้าได้พิมพ์ใหม่ : มากที่สุด เนื่องจากหาอ่านได้ยากสุดๆ อย่างอีกคือไม่ค่อยมีใครนำมาพิมพ์ใหม่เลย ภาพสวย เนื้อเรื่องสนุก งานระดับมาสเตอร์พพีซอย่างนี้จะไม่มีใครสนใจนำมาพิมพ์ใหม่เลยหรือไงครับท่าน อวยกันขนาดนี้สรุป…ทำนะครับ ^^
ปล. อ.ชินจิ วาดะ เสียชีวิตด้วยวัย 61 ปี ขอไว้อาลัยให้กับอาจารย์ไว้ I ที่นี้ด้วยครับ
อันดับที่ 6 โจโจเนี่ยม (อาจารย์ฮิโรฮิโกะ อารากิ)
JoJonium ก็คือ โจโจ้ล่าข้ามศตวรรษ นี่แหละครับ แต่ขอเรียกว่าเป็นโจโจ้ฉบับ Director’s cut ดีกว่า เพราะเป็นเวอร์ชั่นที่พิมพ์และเรียบเรียงใหม่ที่เห็นแล้วรับรองว่าสาวกโจโจ้ต้องควักกระเป๋าเงินจ่ายแบบไม่ต้องคิดแน่นอน ผลงานสร้างชื่อของ อ.อารากิ ที่เขียนติดต่อกันมายาวนานกว่า 20 ปี เรื่องนี้ขึ้นแท่นการ์ตูนในตำนานไปแล้ว และเชื่อว่าอาจารย์คงไม่ไปเขียนเรื่องอื่นแล้วล่ะ

JoJonium เป็นเวอร์ชั่นพิมพ์ใหม่ของโจโจ้ครับ โดยจะไล่มาตั้งแต่ Phantom Blood ภาคแรก ไม่แน่ใจว่าจะไล่ยาวมาถึง Stone Ocean เลยหรือเปล่านะครับ ปัจจุบันเห็นล่าสุดอยู่ที่เล่ม 17 รูปเล่มภายนอกจะเป็นกล่องแบบแยกเล่ม 1 เล่มก็ 1 กล่อง หน้าสีพอมีบ้างตามต้นฉบับเดิม ใช้กระดาษเนื้อดีเน้นคุณภาพงานพิมพ์ ท้ายเล่มจะมีสัมภาษณ์อ.อารากิ พร้อมเกร็ดความรู้เกี่ยวกับจักรวาลโจโจ้และอื่นๆ อีกเพียบ


อ.อารากิ วาดปกใหม่หมดด้วยอาร์ตสไตล์แบบปัจจุบัน แต่ยังคงคอนเซ็ปท์เดิมของแต่ละตัวละครไว้ครับ เคยไปเห็นที่ร้านคิโนะทีนึง อ้าปากค้างไปเลย นี่คือการรีปริ้นที่สมบุรณ์แบบสุดๆ แล้วได้อยากมาก
โจโจ้ในประวัติศาสตร์การ์ตูนบ้านเราที่มีให้อ่านยุคก่อนลิขสิทธิ์เลยคือมิตรไมตรีครับ ตีพิมพ์ลงใน Talent ใช้ชื่อว่า หน้ากากทมิฬ ซึ่งเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่พิมพ์เรื่องนี้ จากนั้นหมึกจีนจับไปรวมเล่มแบบหนาๆ เลย จำไม่ได้ว่ากี่หน้า ใช้ชื่อว่า หน้ากากทมิฬ เช่นเดียวกัน ซึ่งผมก็เคยซื้อเวอร์ชั่นนี้ไว้ เพราะตอนอ่านจาก Talent งงมากว่าหน้ากากทมิฬมันคืออะไรกันนะ เกี่ยวอะไรกับสแตนด์ (ไม่เคยอ่านตอนแรก มาอ่านเอากลางเรื่องแล้ว) พอย้อนมาอ่านตอนแรกเลยเข้าใจว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ซึ่งว่ากันตามจริงภาค 3 Stardust Crusaders ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหน้ากากเลย แต่เปลี่ยนชื่อกันไม่ทันแล้วไง ไม่รู้ทำไง (ฮา..) แล้วก็ไม่ได้อ่านต่อเอาภาค Diamond is Unbreakable ช่วงต้นๆ เพราะปัญหาลิขสิทธิ์
แต่แล้วในที่สุด โจโจ้ก็กลับมาภายใต้การดูแลของ NED ในชื่อ Jojo ล่าข้ามศตวรรษ ซึ่งชื่อนี้ผมว่าโอเคที่สุดแล้วเพราะตอบจบของ Stone Ocean นั่นข้ามเวลาจักรวาลกันเลยทีเดียว และก็พิมพ์ต่อเนื่องมาตลอดครบถ้วนทุกเล่มจนปัจจุบันคือ Jojolion นั่นเอง
ความน่าสนใจถ้าได้พิมพ์ใหม่ : มากที่สุด! งานนี้เรียกว่าวัดใจวัดฝีมือสำนักพิมพ์เลยนะครับ สมมติว่าไม่มี Jojonium แล้วถ้าพิมพ์ใหม่ตามปกติอาจไม่ตื่นเต้น แต่ดันมี Jojonium เกิดขึ้นมาแล้วนี่ละสิ งานนี้จะเอายังไงดีล่ะครับ NED
มาถึง Top 5 ของ 22 อันดับการ์ตูนฮิตที่นักอ่านอยากให้พิมพ์ใหม่มากที่สุด
อันดับที่ 5 คิทาโร่คุณผีจอมทีเด็ด (อาจารย์มิซูกิ ชิเงรุ)
การ์ตูนในตำนานอีกเรื่องที่นักอ่านรุ่นเก๋าไล่ตามหากันในตลาดทั้งมือหนึ่งและมือสอง ราคาสูงลิบลิ่วทั้งคู่ ถ้าบอกไปคงไม่เชื่อว่าแบบครบชุดนี่ราคาสูลถึง 12,000 บาทเลยนะครับ
คิทาโร่ คุณผีจอมทีเด็ด เคยถูกตีพิมพ์มาแล้วหลายเวอร์ชั่น สมัยก่อนจำได้ว่าช่อง 3 เคยนำอนิเมะมาฉายด้วย เวอร์ชั่นเก่าๆ ยุคก่อนลิขสิทธิ์ก็เคยเห็นมาบ้างแต่จำไม่ได้จริงๆ ว่ามีกี่เล่ม ในยุคลิขสิทธิ์เองเคยเห็นของ SIC ทำไว้จำนวน 20 เล่มจบ ซึ่งเวอร์ชั่นนี้แหละครับที่คนตามหากันเพราะจบครบชุดจริงๆ และไม่มีพิมพ์ซ้ำอีกเลย จากนั้นก็เห็นมีไพเรทนำมารวมเป็นรวมหนาๆ ปก 2 ชั้นสวยมากด้วย


คิทาโร่ เป็นผีเด็กผู้ชายตาเดียว มีผีลูกตาตัวเล็กอีกตัวนึงที่จะอยู่ด้วยกันตลอดและเรียกลูกตานี้ว่าท่านพ่อ เรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยเพื่อสร้างสันติภาพระหว่างภูติผีปีศาจ ลายเส้นเก่ามาก ต่อมาถูกน่ากลับมาเขียนใหม่ด้วย โดย อ.ริวอิจิ โฮชิโนะ รับหน้าที่รีบู๊ทเวอร์ชั่นนี้ ลายเส้นดูทันสมัยเพื่อให้เข้ากับนักอ่านรุ่นใหม่แต่คงไว้ซึ่งเนื้อเรื่องเดิมเป๊ะ VBK ได้ลิขสิทธิ์มาใช้ชื่อว่า คิทาโร่ไอ้หนูปีศาจพิมพ์ 6 เล่มไม่จบ นอกจากนี้ยังไม่เวอร์ชั่นของ สนพ. Comm Kid ด้วย ได้ลิขสิทธิ์ถูกต้องมา พิมพ์กระดาษดี แต่ราคาค่อนข้างสูงและหาซื้อยาก (เคยไปเจอที่ร้านคิโนะ แต่ร้านการ์ตูนทั่วไปไม่ยักเห็น) แล้วก็วางตลาดพร้อมๆ กับของไพเรทอีก งานนี้เรียกว่าลิขสิทธิ์ยังต้องพับฐานเก็บกลับแทบไม่ทัน
อ.ชิเงรุ เจ้าของผลงานก็เป็นบุคคลระดับตำนานเช่นกันครับ เป็นนักเคลื่อนไหวในวงการมังงะญี่ปุ่นและเป็นผู้ผลักดันให้สื่อการ์ตูนเป็นสื่อสำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่ใช่แค่ของเด็กอย่างเดียว ทำให้มีฉากที่รุนแรงและสะเทือนอารมณ์ปรากฏในการ์ตูนมากขึ้น ขยายตลาดสู่กลุ่มผู้ใหญ่และสร้างการแข่งขันกับตลาดภาพยนตร์และนิยายได้เป็นครั้งแรก
ความน่าสนใจถ้าได้พิมพ์ใหม่ : กลางๆ ครับ เพราะว่าลายเส้นของ อ.ชิเงรุ ค่อนข้างจะดูเก่าแก่มาก ต่างจาก อ.โอซามุ ที่ลายเส้นดูร่วมสมัยอยู่แล้ว ฉะนั้นอาร์ตสไตล์ของ อ.ชิเงรุ คนรุ่นใหม่อาจรับไม่ได้เลยก็ได้ แต่เวอร์ชั่นที่นำกลับมาเขียนลายเส้นใหม่ของ อ.โฮวิโนะ นี่น่าสนใจแฮะ เพราะเนื้อเรื่องเดิมๆ แต่อ่านง่ายขึ้น น่าเอามาพิมพ์ให้จบนะครับ
อ.ชิเงรุ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 93 ปี Cartoon Mthai ขอไว้อาลัย ณ ที่นี้ด้วยครับ
อันดับที่ 4 นินจาคว้าเมฆ (อาจารย์ทาคาโอะ ไซโต้)
เป็นสินค้าที่ตลาดต้องการอีกหนึ่งเรื่อง นินจาคว้าเมฆ ผลงานของอ.ไซโต้ นักเขียนรุ่นใหญ่อีกท่านหนึ่งของวงการมังงะ ที่เคยติพิมพ์ในบ้านเรามาแล้วโดย VBK เป็นเจ้าแรก และพิมพ์จบซะด้วย (แต่เซ็นเซอร์เพียบ..ฮ่าๆ) และก็มีอีกหลายๆ เวอร์ชั่นที่วนขายอยู่เรื่อยๆ แต่ด้วยความที่ VBK ทำไว้แทบจะสมบูรณ์ที่สุดแล้ว จึงเป็นที่ต้องการในตลาดมากแบบแทบพลิกแผ่นดินหาเลย ราคาในตลาดมือสองเคยเห็นพุ่งไปที่ 11,000 บาทเลยทีเดียว
ทางด้าน SIC ก็ได้ลิขสิทธิ์มาเช่นกัน แต่พิมพ์ออกมาแค่ 12 เล่ม ซึ่งก็รอแล้วรอเล่าว่าเมื่อไหร่จะออกมาจนครบชุด หรือว่าลอยแพไปแล้วกันแน่ พอสืบค้นข้อมูลดูพบว่าของ SIC 12 เล่มนี้เป็นการคัดตอนที่ดีที่สุดมาพิมพ์ตามต้นฉบับญี่ปุ่นของเวอร์ชั่นนี้เช่นกัน (เค้าว่างั้นนะ..) ซึ่งมันไม่ตรงตามความต้องการไง คือเราอยากได้แบบครบชุดกันใช่มั๊ยล่ะครับ ทีแรกนึกว่าสบายล่ะ SIC พิมพ์จบชัวร์แต่ดันไม่เป็นอย่างงั้นซะนี่ ผิดหวังกันไปตามๆ กัน เฮ้อ…
นินจ้าคว้าเมฆเป็นเรื่องของ ซันเป้ นินจาไร้สังกัดที่รับงานขโมยของทุกประเภทจนได้ฉายาว่านินจาคว้าเมฆ เพราะเชื่อว่าความเก่งกาจของซันเป้นั้นแม้แต่เมฆก็ (น่าจะ) ขโมยได้ ผลงานขโมยเท่าที่จำได้นะครับ ที่พี่แกขโมยมาก็มีภูเขาไฟฟูจิ, เวลา, แผ่นดินไหว พระประทานขนาดใหญ่ และอื่นๆ อีกมากมาย ซันเป้ขโมยตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการโดยการนัดพบจะมีรหัสถามตอบและเจอกันที่โรงอาบน้ำ สุดท้ายผมสปอยล์ให้เลยว่างานสุดท้ายของซันเป้คือขโมยประเทศญี่ปุ่น (ถ้าจำไม่ผิดนะ) แต่ขโมยยังไงจำไม่ได้แล้ว หนังสือก็โดนน้ำท่วมไปหมดแล้วด้วย เสียดายจัง
ความน่าสนใจถ้าได้พิมพ์ใหม่ : มากที่สุด ทำเถอะครับ เรื่องนี้บอกตรงๆ ว่าอ่านแล้วฉลาดครับ ด้วยคาแร็คเตอร์ของซันเป้ที่เป็นคนมีสติ คิดแก้ปัญหาและวางแผนทำงานอย่างรอบคอบ หาอ่านแนวนี้ยากมาก แต่กรุณาพิมพ์ให้จบครบทุกตอนนะครับ ถ้าออกมาแล้วมาบอกตอนหลังว่ารวบรวมตอนดีๆ มาให้อ่านทีหลังก็ไม่ไหวนะ รู้สึกเหมือนเสียเงินฟรีๆ ยังไงไม่รู้
22 อันดับการ์ตูนฮิตที่นักอ่านอยากให้พิมพ์ใหม่มากที่สุด 3 อันดับสุดท้ายแล้วนะครับผม จะมีเรื่องอะไรบ้างนะ
อันดับที่ 3 Wingman (อาจารย์มาซาคาซึ คัตซึระ)
สุดยอดการ์ตูนในความทรงจำอีกเรื่องที่มีเนื้อหาเป็นอมตะ ไม่เคยตกยุคแม้ว่าจะนำมาอ่านซ้ำสักกี่ครั้ง ไพเรทก็หยิบเรื่องนี้มาพิมพ์ซ้ำเปลี่ยนปกกันอยู่เรื่อยๆ แต่ว่ายังไม่มีใครได้ลิขสิทธิ์เรื่องนี้มาพิมพ์เป็นทางการเลย ผลงานของอ.คัตซึระ ที่มีผลงานมาแล้วมากมายหลากหลายแนว เช่น VDO Girl, I’s, Shadow Lady, DNA ผลงานปัจจุบันคือ Zetman และนี่คือผลงานแจ้งเกิดของอาจารย์ครับ Wingman
Wingman เป็นการ์ตูนที่อุดมไปด้วยไอเดียความคิดสร้างสรรมากมายและยังเป็นต้นแบบทางความคิดให้กับการ์ตูนในยุคถัดมาอีกด้วย อย่างเช่น เป็นการ์ตูนแนวฮาเร็มเรื่องแรก (น่าจะนะ…) ลองนึกย้อนกลับไป ณ ตอนนั้นไม่มีแนวนี้นะครับ แม้ว่า คอบร้า จะมีสาวๆ ใส่บิกินี่เต็มเรื่องแต่ก็ไม่ใช่แนวฮาเร็มนะ เป็นการ์ตูนล้อเลียนหนังขบวนการ 5 สีแบบวสุดขั้ว คือขบวนการจะมีชาย 4 หญิง 1 แต่ Wingman ชาย 1 หญิง 4 เป็นการ์ตูนเรื่องแรกๆ ที่นำเสนอสาวแว่น เป็นการ์ตูนที่พระเอกไม่เอาไหนแต่ได้พลังมาโดยบังเอิญเรื่องแรกๆ และยังมีอีกหลายๆ ไอเดียครับที่อ.คัตซึระยัดลงมาใน Wingman แบบลงตัวมาก

Wingman เคยมีให้อ่านในบ้านเราหลายเวอร์ชั่นอยู่ครับ อนิเมะช่อง 9 ก็เคยเอามาฉายนะ แต่ไม่จบเพราะฉากเซอร์วิสเยอะเกินกว่าจะเป็นการ์ตูนเด็ก แต่ทั้งมังงะและอนิเมะกระแสดีมาก เวอร์ชั่นของ SIC (ตอนนั้นเป็นสยามสปอร์ตฯ) ไม่แน่ใจว่าพิมพ์จบหรือเปล่าเพราะจำได้ว่ามาอ่านตอนจบเอาตอนทำเล่มหนาๆ (ไม่แน่ใจสำนักพิมพ์) และในปัจุจบันก็มีของไพเรทที่พอจะหาได้อยู่ พิมพ์ดีซะด้วย ของ สนพ. ANT
ความน่าสนใจถ้าได้พิมพ์ใหม่ : มากที่สุดครับ เนื้อหาที่ร่วมสมัย ยังไม่มีเจ้าไหนทำลิขสิทธิ์ดีๆ ความยาวต้นฉบับก็ 13 เล่มกำลังดี มีไว้สักชุดในชั้นหนังสือนี่ดีงามครับขอบอก
อันดับที่ 2 สองสิงห์เจ้าสำอางค์ (อาจารย์ยาสุอิชิ โอชิมะ)
อ.โอชิมะ เป็นนักเขียนรุ่นใหญ่อีกท่านหนึ่งที่มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง และผลงานที่ฮิตสุดๆ ในบ้านเรานั่นก็คือ The Battery หรือ สองสิงห์เจ้าสำอางค์ นั่นเอง ด้วยเนื้อหาที่สนุก เน้นแนวมิตรภาพของลูกผู้ชาย (ที่ไม่มีนัยยะของความเป็นเกย์แอบแฝง) วีรกรรมต่างๆ ของคู่หูบัทสึและเทอรี่ ที่สร้างไว้มากมายแต่ตบท้ายด้วยเรื่องราวที่ได้แง่คิดทำให้เรื่องนี้ยังเป็นที่คิดถึงของนักอ่านเสมอๆ
สองสิงห์เจ้าสำอางค์ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ VBK ทำไว้จนจบตั้งแต่สมัยก่อนลิขสิทธิ์ทั้งหมด 29 เล่มจบ (เล่มละ 10 บาท) ซึ่งในยุคลิขสิทธิ์ บูรพัฒน์ เป็นผู้ได้ลิขสิทธิ์มาแต่ดันพิมพ์ไม่จบซะอย่างงั้น ออกมาได้แค่ 11 เล่มแล้วหายไปเลยน่าเสียดายมาก
สองสิงห์เจ้าสำอางค์ เป็นเรื่องราวของ แบท (บัตโตะ) และเทรี่ (อิจิมอนจิ เทรุ) คู่หูแบทเทอรี่ ซึ่งคำว่าแบทเทอรี่นี้มาจากคู่ฟิชเชอร์และแคชเชอร์ในกีฬาเบสบอล ซึ่งต้องรู้ใจกันมาก อ.โอชิมะ จึงจับมาเล่นคำแยกเป็นฉายาของ 2 คู่หู ซึ่งทั้งคู่เป็นนักเรียมม.ปลาย แต่งานหลักคือปกป้องสาวสวยจากการข่มเหงของพวกกลุ่มแก๊งค์ต่างๆ เป็นหลัก งานรองคือแข่งเบสบอล และด้วยความเกรียนของ แบทและเทรี่ มาเจอกับความเก๋าของชาวแก๊งค์ความมันส์จึงบังเกิด เรื่องนี้หลายคนยกให้เป็นการ์ตูนขึ้นหิ้งระดับ 5 ดาวเลยนะครับ เพราะมันมีส่วนผสมของความเป็นจริงในสังคมเข้ามาด้วย ทำให้เรื่องนี้ครองใจวัยมันส์ในยุคนั้นได้อยู่หมัด
อัดกันเสร็จไปแข่งเบสบอลกันต่อ สุดยอดไปเลยครับลูกพี่ ^^
ผลงานของ อ.โอชิมะ ที่ดังๆ มีมากมายครับแต่ในยุคหลังๆ อาจารย์แกไปเขียนแนวผู้ใหญ่ๆ หน่อย ไม่ใช่เขียนโป๊เปลือยนะครับ แนวผู้ใหญ่นี่คือเนื้อหาหนักๆ อย่างเช่น นักสืบเมียแสบ นักสืบธรรมดากับคดีธรรมดาแต่เบื้องหลังมีเงื่อนงำที่เหลือเชื่อ, สืบโอซาก้า เรืองของนักข่าวเฝ้าที่สถานีตำรวจ แต่ละข่าวไม่ได้ได้มาง่ายๆ และเรื่องเด็ดหัวคอรัปชั่น ที่เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งแต่ละเรื่องนี่ืข้อมูลแน่นปึ๊กอย่างกับอย่างวิเคราะห์ข่าวยังไงอย่างงั้น แต่ส่วนตัวแล้วผมชอบนะ ^^
ความน่าสนใจถ้าได้พิมพ์ใหม่ : มากที่สุดครับ ขนาดมีลิขสิทธิ์แล้วยังพิมพ์ไม่จบ ใครก็ได้ช่วยทีเถิด เอาเรื่องอื่นๆ ของอาจารย์มาด้วยจะดีงามมาก
และอันดับที่ 1 ก็คือ คินนิคุแมนจอมพลัง (อาจารย์ยูเดะ ทามาโกะ(นามปากกา) จริงๆ มาจากการร่วมงานกันของอาจารย์โยชิโนริ นากาอิ (ภาพ) + อาจารย์ทากาชิ ชิมาดะ (เรื่อง))
อร่อยถูก รวดเร็วทันใจ ต้องข้าวหน้าเนื้อวัว เจ้าเก่า 300 ปี โช๊ะๆ
เสียงของน้าต๋อยยังดังกังวานในหัวทุกครั้งที่ผมเห็น คินนิคุแมน ความสนุกไม่ต้องพูดถึง ความฮาไม่มีใครเกิน ความมันส์สะใจของการต่อสู้บนสังเวียนผ้าใบของมวยปล้ำจักรวาลที่หาที่เปรียบไม่ได้ ทำให้เด็กผู้ชายยุค 80 บ้ามวยปล้ำกันทั่วบ้านทั่วเมือง และผู้ที่ทำให้เราได้ฟินกันจนถึงทุกวันนี้ก็คือ สนพ. มิตรไมตรี ที่แทบจะเป็นเจ้าเดียวในยุคนั้นที่พิมพ์เรื่องนี้ให้เราได้อ่านกัน

ความดังของคินนิคุแมนนั้นเรียกว่าต้องมีติดบ้านกันแทบทุกคนที่อ่านการ์ตูน มิตรไมตรีก็พิมพ์ซ้ำหลายรอบมาก ทั้งเล่มเล็กเล่มใหญ่จนต้องบอกตรงๆ ว่างงเลขเล่มมาก ซื้อซ้ำซื้อข้ามกันไม่รู้กี่เล่มแต่ก็ซื้อนะ เล่มไหนข้ามไปยืมเพื่อนอ่านเอา (ฮา..) เพื่อนนักอ่านการ์ตูนท่านหนึ่ง (อีกแล้ว) ได้กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ชอบมากแต่มีไม่เคยครบชุดเพราะซื้อซ้ำตลอด เพราะเลขเล่มนี่แหละ
ความน่าสนใจถ้าได้พิมพ์ใหม่ : สั้นๆ นะ เอาเงินผมไปเลย
22 อันดับการ์ตูนฮิตที่นักอ่านอยากให้พิมพ์ใหม่มากที่สุด ตรงใจใครบ้างหรือเปล่า ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้นะครับผม ^^
ติดตาม 22 อันดับการ์ตูนฮิตที่นักอ่านอยากให้พิมพ์ใหม่มากที่สุด ตอนที่ 1 ได้ที่นี่